วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2551
งานวิทยาศาสตร์
Authentication
Authentication เป็นระบบพิสูจน์ตัวตนด้วยวิธีโอเพนซอร์ส มีหน้าที่ตรวจสอบผู้ใช้ที่เข้ามาใช้ระบบ อินเตอร์เน็ตในเครือข่ายขององค์กร จะครอบคลุมทั้งในส่วนของเครือข่ายที่ใช้สายและเครือข่ายไร้สาย
ส่วนประกอบของระบบ
ส่วนติดต่อผู้ใช้เพื่อควบคุมการเข้าใช้บริการเริ่มต้นจากการที่ผู้ใบริการเชื่อมต่อเครือข่ายด้วยสายแลนหรือผ่านอุปกรณ์ไร้สาย ระบบจะกำหนดหมายเลขไอพีให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการ และเมื่อผู้ใช้เรียกใช้งานอินเตอร์เน็ตโดยใช้โปรแกรมค้นผ่าน (Web Brower) ระบบจะแสดงหน้าจอสำหรับล็อกอินเข้าใช้งาน จากนั้นผู้ให้บริการต้องป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ได้จากผู้ใช้บริการก่อน ระบบจะทำการตรวจสอบว่าผู้ใช้บริการรายนั้นมีสิทธ์ในการเข้าใช้ระบบหรือไม่ หลังจากที่ระบบตรวจสอบพบว่าผู้ใช้มีสิทธิ์เข้าใช้ระบบแล้ว ระบบจะแสดงรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับสิทธิ์ในการเข้าใช้บริการ เช่น ชื่อผู้ใช้ และนามสกุล หมายเลขไอพีที่ได้รับ เวลาที่สามารถใช้งานได้ต่อครั้ง วันหมดอายุการใช้งาน เป็นต้น
ประโยชน์ของระบบ Authentication
1 . เป็นสูตรสำเร็จในการติดตั้งอุปกรณ์ระบบเครือข่ายให้มีความมั่นคงปลอดภัยทางข้อมูลสารสนเทศโดยลดการซับซ้อนในการออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายให้มีจำนวนน้อย
2. ระบุตัวตนผู้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตยังสามารถรับรู้นโยบาย(Policy) ที่ประกาศใช้เพื่อความถูกต้องและป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
3. สามรถสืบคันผู้กระทำความผิด สถิติการใช้งานระบบสารสนเทศ ระบบอินเตอร์เน็ต และจัดเก็บบันทึกเป็นข้อมูลที่สามารถสืบค้นได้อย่างสะดวก
4. ประเมินพฤติกรรมการใช้งานอินเตอร์เน็ตภายในองค์กร (Network Awareness) เพื่อจัดทำการประเมินพนักงานสำหรับงานทรัพยากรบุคคลได้
เครื่อข่ายคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นจากการนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาเชื่อต่อเข้าด้วยกัน
โดยการใช้สื่อนำสัญญาณข้อมูล เช่น สายโทรศัพท์ สายเเลน อินฟราเรด บูลทูธ ดาวเทียม
การโมเด็มมีสองประเภท คือ ติดตั้งภายใน และ ภายนอก
เครือข่ายดิจิตอลความเร็วสูงในโทรศัพท์ในญี่ปุ่นจะส่งสัญญาณใน ๓ แบบ
1.ในรูป รูปภาพ
2.เสียง
3.อินเตอร์เน็ต
Lan card = Elternal Card
Telephone Line -----> Digital
Gateway = Defaulf
การหา ID address128 64 32 16 8 4 2 1 จำและเอาไปแทนที่
0000 0000 = 0
1111 1111 = 255
x.x.x.x
0.255 . 0.255 . 0.255 . 0.255
วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
application software
1ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน (Special Purpose Software)
จะมีความเหมาะสมกับงานเฉพาะด้าน เช่น โปรแกรมด้านการคำนวณราคาค่าน้ำของแต่ละบ้าน จะมีประโยชน์กับงานด้านการประปา หรือโปรแกรมสำหรับฝากถอนเงิน ก็จะมีประโยชน์กับองค์กรเกี่ยวกับการเงิน เช่น ธนาคาร
ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้านส่วนมากจะไม่มีการจำหน่ายอยู่ทั่วไป องค์กรที่ต้องการใช้งานมักจะต้องพัฒนาด้วยตนเอง หรือว่าจ้างบริษัทซอฟต์แวร์พัฒนาให้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีบริษัทซึ่งพัฒนาซอฟต์แวร์เฉพาะด้านมาวางจำหน่ายก็มักจะมีราคาสูง รวมทั้งมีข้อเสนอในการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้เหมาะสมกับองค์กรต่าง ๆ ด้วย
2ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป (General purpose Software)
จะเป็นซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาสำหรับงานทั่ว ๆ ไป สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานส่วนตัวได้อย่างหลากหลาย ทำให้เป็นซอฟต์แวร์ประเภทที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานอยู่ในเครื่องระดับไมโครคอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป สามารถแบ่งตามประเภทของงานได้ดังนี้
3ซอฟต์แวร์ตารางวิเคราะห์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Spreadsheet)
ธุรกิจในสมัยก่อนนั้นการทำงบประมาณ หรือการวางแผนต่าง ๆ ต้องใช้กระดาษบัญชีและเครื่องคิดเลขเท่านั้น สำหรับสมัยนี้ด้วยซอฟต์แวร์ตารางวิเคราะห์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ใช้สามารถพิมพ์หัวข้อหรือชื่อของข้อมูล และตัวเลขข้อมูลต่าง ๆ เข้าในคอมพิวเตอร์ โดยที่ในคอมพิวเตอร์จะมีตารางที่เปรียบเสมือนกระดาษบัญชีขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถคำนวณได้ตามสูตรที่ผู้ใช้ทำการกำหนด โดยที่สูตรเหล่านั้นจะไม่ปรากฏในช่องของข้อมูลเลย ยิ่งไปกว่านั้นหากผู้ใช้เปลี่ยนตัวเลขหรือข้อมูลใด ๆ ก็ตาม จะเห็นการเปลี่ยนแปลงข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกันในทันที ปัจจุบันมีผู้ใช้ประโยชน์ของตารางวิเคราะห์แบบอิเล็กทรอนิกส์มากมาย ไม่เฉพาะแต่ในทางบัญชีเท่านั้น แต่ยังนิยมใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ บริหารการเงิน และอื่น ๆ อีกมาก
4ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ (Word processing)
ปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์มากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ ต้องติดตั้งโปรแกรมสำหรับงานพิมพ์เอกสารรวมอยู่ด้วย ซึ่งโปรแกรมนี้ทำให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือสำหรับสร้าง แก้ไข ตรวจสอบ พิมพ์ และจัดเก็บข้อความต่าง ๆ หนังสือที่จำหน่ายในท้องตลาดในปัจจุบันนี้ ส่วนมากก็เริ่มต้นจากการพิมพ์ข้อความลงในคอมพิวเตอร์ด้วยซอฟต์แวร์ที่ประมวลคำ
5ซอฟต์แวร์การพิมพ์แบบตั้งโต๊ะ (Desktop Publishing)
ในสมัยก่อนการจัดทำหนังสือพิมพ์ หรือวารสารต่าง ๆ นั้นต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ มากมายหลายขั้นตอนซึ่งรวมเรียกว่าการเรียงพิมพ์ โดยที่จะต้องมีผู้ตัดต่อรูปภาพที่ต้องการ วาดกรอบของภาพหรือกรอบหัวเรื่อง และเขียนข้อความ และนำข้อความ ภาพ และกรอบมาประกอบกันตามแบบที่ออกแบบไว้ การทำงานที่ยุ่งยากเหล่านี้นี่เองที่ทำให้เอกสารเหล่านั้นมีราคาแพง แต่ในปัจจุบันนี้ขอเพียงมีคอมพิวเตอร์ และโปรแกรมการจัดพิมพ์แบบตั้งโต๊ะ เท่านั้น ก็สามารถที่จะออกแบบงานหรือเอกสารให้เป็นที่น่าสนใจได้ โดยซอฟต์แวร์การพิมพ์แบบตั้งโต๊ะจะมีความสามารถด้านการจัดการเอกสาร ความสามารถด้านการเรียงพิมพ์ รวมทั้งการจัดสีที่สูงกว่าซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ
6ซอฟต์แวร์นำเสนอ (Presentation Software)
เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการนำเสนอข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ โดยอาจประกอบด้วยตัวอักษร รูปภาพ แผนผัง รายงาน ตลอดจนภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น นิยมใช้ในการเรียนการสอน หรือการประชุม เพื่อนำเสนอข้อมูลให้การบรรยายนั้นน่าสนใจยิ่งขึ้น
7ซอฟต์แวร์กราฟิก (Graphic Software)
เป็นซอฟต์แวร์สำหรับสร้างภาพกราฟิกแบบต่าง ๆ การใช้งานในระดับเบื้องต้นอาจนำไปใช้ประกอบการสร้างเอกสาร หรือการนำเสนอข้อมูล ส่วนการใช้ในระดับสูงอาจใช้สำหรับการตกแต่งภาพหรือรูปถ่าย หรือใช้สำหรับงานด้านศิลปกรรม สถาปัตยกรรม วิศวกรรม เป็นต้น
8ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล (Database)
โปรแกรมฐานข้อมูลเป็นโปรแกรมสำหรับสร้างแฟ้มข้อมูลต่าง ๆ เก็บไว้ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยโปรแกรมจะมีเครื่องมือต่าง ๆ ในการอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการจัดการแฟ้มข้อมูล เช่น มีเครื่องมือสำหรับการเพิ่มหรือแก้ไขข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ หรือสามารถเรียกแฟ้มข้อมูลนั้นขึ้นมาแสดงบนจอภาพโดยกำหนดเงื่อนไขให้เลือกข้อมูลมาแสดงเพียงบางส่วน เป็นต้น
9ซอฟต์แวร์สื่อสารโทรคมนาคม (Telecommunication Software)
ถ้าผู้ใช้ต้องการติดต่อกับคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกลออกไป สามารถทำได้โดยใช้ซอฟต์แวร์สำหรับติดต่อสื่อสารข้อมูล ซอฟต์แวร์ประเภทนี้จะจำลองเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นเทอร์มินัล (terminal) ที่สามารถติดต่อไปยังระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้หลายคนได้โดยใช้สายโทรศัพท์ในการโทรติดต่อ และเมื่อติดต่อได้แล้วก็จะสามารถใช้งานระบบต่าง ๆ ที่อยู่ในเครื่องนั้นได้ เสมือนกับนั่งใช้เครื่องอยู่ข้าง ๆ เครื่องที่เราติดต่อเข้าไป การใช้งานที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เช่น ร่วมคุยกับกลุ่มที่สนใจเรื่องเดียวกัน แลกเปลี่ยนจดหมายกับผู้อื่นในระบบหรือแม้กระทั่งจองตั๋วเครื่องบินและจองโรงแรมผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
10ซอฟต์แวร์ค้นหาข้อมูล (Resource Discovery Software)
หมายถึงซอฟต์แวร์ที่เป็นเครื่องมือสำหรับค้นหาข้อมูลที่ต้องการ จากแหล่งข้อมูลในที่ต่าง ๆ เนื่องจากปัจจุบันนี้ความนิยมในการใช้การติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น อินเตอร์เนต หรือเครือข่ายเชิงพาณิชย์อื่น ๆ ช่วยให้สามารถเรียกค้นข้อมูลที่ต้องการทราบได้จากทั่วโลก ตัวอย่างซอฟต์แวร์ประเภทนี้ เช่น Archie , Gopher และ World Wide Web เป็นต้น
วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2551
Data Communication
- การสื่อสารข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ คือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างต้นทางและปลายทาง โดยใช้อุปกรณ์ทางอิเล็กทอรนิกส์ ซึ่งเชื่อมต่อกันอยู่ด้วยสื่อกลางชนิดใดชนิดหนึ่ง
Procedures
- กระบวนการทำงาน หรือ Procedures หมายถึงขั้นตอนที่ผู้ใช้จะต้องทำตาม เพื่อให้ได้งานเฉพาะบางอย่างจากคอมพิวเตอร์
- การปฏิบัติงานด้านคอมพิวเตอร์ในส่วนต่างๆ มักมีขั้นตอนสลับซับซ้อน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีคู่มือการปฏิบัติงานที่ชัดเจนด้วย
ข้อมูลและสารสนเทศ DATA
Data/Information
คือทรัพยากรที่สำคัญของหน่วยงานมีหลายลักษณะ
-ข้อมูลตัวเลข นำไปคำนวณได้
-ข้อมูลข้อความ เช่น ชื่อ, ที่อยู่-ข้อมูลรูปภาพ เช่น ภาพบุคลากร
-ข้อมูลภาพลักษณ์ เช่น ข้อมูลภาพลักษณ์ เอกสารที่สะแกนเก็บไว้ใช้แสดงข้อมูล
ข้อมูล หรือ Data หมายถึง ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจจริง
-สารสนเทศ หรือ Information หมายถึง สิ่งที่ได้จากการนำข้อมูลไปผ่าน กระบวนการหนึ่งก่อน
ข้อมูลที่ดี = ถูกต้อง + เป็นปัจจุบัน + สมบูรณ์
ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ Peopleware
- คนที่ใช้ computer จะเรียกอีกชื่อว่า End User.
- รวมทั้งบุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
- โปรแกรมเมอร์ นักวิเคราะห์ระบบ ช่างซ่อมฯลฯ
ชุดคำสั่ง โปรแกรม Softwaree
- เป็นชุดคำสั่งที่จะสั่งงานให้ computer ทำงาน
ซอฟต์แวร์สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
-ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) หมายถึง โปรแกรมทุกโปรแกรมที่ทำหน้าที่ติดต่อกับส่วนประกอบต่าง ๆ ของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ และอำนวยเครื่องมือสำหรับทำงานพื้นฐาน เช่น Dos,Windows Vista , Linux
-ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ จะเป็นโปรแกรมที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานต่าง ๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่างานด้านการจัดทำเอกสาร การทำบัญชี การจัดเก็บข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนงานทุก ๆ ด้านตามแต่ผู้ใช้ต้องการ จนสามารถกล่าวได้ว่าซอฟต์แวร์ประยุกต์ก็คือซอฟต์แวร์ที่ทำให้เกิดการใช้งานคอมพิวเตอร์กันอย่างกว้างขวาง และทำให้คอมพิวเตอร์เป็นปัจจัยที่
องค์ประกอบของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์
Hardware(Inside)
คือลักษณะทางกายภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งหมายถึงตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์รอบข้าง ซึ่งประกอบด้วยส่วนที่สำคัญคือ
-หน่วยประมวลผลกลาง
-หน่วยความจำหลัก
-หน่วยรับข้อมูล
-หน่วยแสดงผล
-หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง
- Mainboard (เมนบอร์ด)
- CPU หน่วยประมวลผลกลาง
- Floppy drive
- CD Drive
- PCI CARD
-Sound Card
- Power supply แหล่งจ่ายกระแสไฟ
Hardware(Outside)
อุปกรณ์ที่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก
- ตัวเครื่อง(case)
- Monitor แบ่งเป็น2ชนิด
1.จอแบบ CRT
2.จอแบบ LCD
- แป้นพิมพ์หรือคีร์บอร์ด(Keyboard)+เม้าท์(Mouse)
จะมีทั้งหัวต่อแบบ PS/2 และ USB
- เครื่องพิมพ์(Printer)
เครื่องพิมพ์แบบ Laser
เครื่องพิมพ์แบบ Dot Matrix
- UPS เครื่องสำรองไฟ
- ลำโพง(Speaker)
องค์ประกอบคอมพิวเตอร์
1.ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
2.ซอฟต์แวร์ (Sofeware)
3.บุคลากร (Peopleware)
4.ข้อมูลและสารสนเทศ (Data/Information) และ
5.กระบวนการทำงาน (Procedure)
ความรู้เบื่องต้นคอมพิวเตอร์
เครื่องคอมพิวเตอร์จะมีวงจรการทำงานพื้นฐาน 4 อย่าง (IPOS cycle) คือ
1.รับข้อมูล (Input) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการรับข้อมูลจากหน่วยรับข้อมูล (input unit) เช่น คีบอร์ด หรือ เมาส์
2.ประมวลผล (Processing) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการประมวลผลกับข้อมูล เพื่อแปลงให้อยู่ในรูปอื่นตามที่ต้องการ
3.แสดงผล (Output) เครื่องคอมพิวเตอร์จะให้ผลลัพธ์จากการประมวลผลออกมายังหน่วยแสดงผลลัพธ์ (output unit) เช่น เครื่องพิมพ์ หรือจอภาพ
4.เก็บข้อมูล (Storage) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการเก็บผลลัพธ์จากการประมวลผลไว้ในหน่วยเก็บข้อมูล เพื่อให้สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ในอนาคต